กลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง และธุรกิจค้าปลีก

ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก
ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง

ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยจำหน่ายส่วนใหญ่ เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะต่าง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันดีเซล คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7
  2. ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันเบนซิน ได้แก่ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

น้ำมันเชื้อเพลิงที่บริษัทฯ จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดีเซล เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เป็นกลุ่มลูกค้าหลักทั้งทางตรงและทางอ้อมของบริษัทฯ ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่บริษัทฯ จำหน่ายได้ จึงสอดคล้องกับประเภทรถยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซล ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจเข้ามาในกรุงเทพและปริมณฑลมากขึ้น ทำให้สัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันเบนซินเพิ่มมากขึ้นจากปี 2564 ตามลำดับ

บริษัท ดำเนินธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้สถานีบริการใน 2 ลักษณะ คือ สถานีบริการที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท (Company Owned Company Operated หรือ “สถานีบริการประเภท COCO”) โดยดำเนินการภายใต้ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด (“PTC”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และสถานีบริการที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จากบริษัทฯ (Dealer Owned Dealer Operated หรือ “สถานีบริการประเภท DODO”) โดยสถานีบริการประเภท DODO จะรับซื้อน้ำมันมาจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยที่เป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 10 ทั้งนี้ บริษัท จะเป็นผู้ให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือแก่ตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเหล่านี้ เช่น การออกแบบแปลนสถานี การลงทุน และการบริหารงาน โดยสัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินในแต่ละสถานีบริการน้ำมันจะแตกต่างกันไปตามลักษณะความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานีบริการน้ำมันแต่ละแห่ง

นอกจากนี้ บริษัท ยังดำเนินธุรกิจเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 10 ดำเนินธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่น ๆ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการสั่งซื้อน้ำมันในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก โดยอาจมีวัตถุประสงค์ในการสั่งซื้อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ต้องการจำหน่ายน้ำมันต่อให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่น ๆ หรือต้องการใช้น้ำมันในขั้นตอนการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุ (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า)

ทางบริษัทฯ มีความประสงค์ที่จะต่อยอดสถานีบริการเชื้อเพลิงให้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ จากการเล็งเห็นถึงแนวโน้มการบริโภคพลังงานที่เปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ในปี 2564 บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายในสถานีบริการ PT อย่างเป็นทางการ ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้นำในธุรกิจพลังงานและหน่วยงานภาครัฐของไทยอย่างบริษัทฯ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“กฟผ.” หรือ “EGAT”) และยังคงดำเนินการขยายมาอย่างต่อเนื่องตามถนนสายหลัก และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “ Elex by EGAT PT” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการการอัดประจุไฟฟ้าแก่ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงส่งเสริมพลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

สถานีอัดประจุไฟฟ้าเป็นสถานีให้บริการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภท PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) และ ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) โดยสถานีอัดประจุให้บริการในสถานีบริการ PT เป็นรูปแบบกระแสตรง (DC Fast Charge) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล และสามารถอัดประจุไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงโดยผู้ใช้ยนตร์ยนตร์ไฟฟ้าสามารถ Scan QR Code เพื่อเริ่มต้นการชาร์จและชำระค่าใช้จ่ายผ่าน ELEXA โดยผู้ใช้ยานยนตร์ไฟฟ้าสามารถใช้บริการได้ 2 รูปแบบ 1. สามารถจองล่วงหน้าได้ภายในรัศมี 30 กิโลเมตรจากสถานีชาร์จ 2. สามารถ walk in มาที่สถานีบริการ PT ที่การติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

เนื่องจากในปี 2566 มีการเติบโตของการบริโภคยานยนต์ไฟฟ้าเป็นนัยสำคัญ ส่งผลให้มีผู้ให้บริการภาครัฐและเอกชนเดินหน้ารุกในการขยายธุรกิจสถานีอัดประจุและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงระบบนิเวศ (Ecosystem) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงลูกค้าและรวมถึงเพิ่มสัดส่วนแบ่งการตลาด ส่งผลให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีทางเลือกมากขึ้น บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า อาทิ ความน่าเชื่อด้านความเสถียร (Reliability) ไม่ว่าจะเป็น 1) คุณภาพตู้ชาร์จไฟฟ้า และมาตรฐานการติดตั้งโดย EGAT ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างเต็มกำลังและมีความรวดเร็วในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคันที่เฉลี่ยราว ๆ 30 นาที รวมถึง 2) ความเสถียรในการใช้งานแอปพลิเคชัน ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและสถานีชาร์จ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ส่งมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทฯ และส่วนลดต่าง ๆ ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอัดประจุ และเป็นกลุ่มผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus รวมถึงผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ที่ครบวงจรให้กับลูกค้ามากขึ้น

ธุรกิจค้าปลีก
ลักษณะผลิตภัณฑ์หรือบริการ

นอกจากธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการแล้ว PTC ยังเป็นผู้ลงทุนและดำเนินการธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวันในสถานีบริการ PT ทั้งสถานีบริการแบบ COCO และ DODO โดย PTC จะเลือกสถานีบริการน้ำมันที่เหมาะสมสำหรับลงทุนร้านสะดวกซื้อโดยพิจารณาจาก

  1. จำนวนผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันและยอดการจำหน่ายน้ำมันภายในสถานีบริการน้ำมัน
  2. ทำเลที่ตั้งของสถานีบริการน้ำมันที่จะเปิดร้านสะดวกซื้อ คำนึงถึงแหล่งชุมชนที่พักอาศัย ย่านธุรกิจการค้า และสถานที่ราชการขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงเส้นทางต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับถนนที่สถานีบริการน้ำมันนั้นตั้งอยู่
  3. ขนาดพื้นที่ภายในสถานีบริการน้ำมัน PT ต้องกว้างเพียงพอสำหรับการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อ

PTC ได้มีการปรับทิศทางในการบริหารร้านสะดวกซื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเพิ่มการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดย PTC ได้ปรับปรุง Max Mart เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจำหน่ายสินค้า โดยการปรับปรุงโครงสร้าง ปรับเปลี่ยนรูปโฉม อุปกรณ์ให้มีความทันสมัย อีกทั้ง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีจำนวนสาขาของร้านสะดวกซื้อ Max Mart ทั้งหมด 345 สาขา ทั้งนี้ PTC วางแผนขยายจำนวนร้านสะดวกซื้อ Max Mart ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความครบวงจรของสถานีบริการ PT และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ