สารจากประธานกรรมการ

ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุน กลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (“พีทีจี“) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมานั้น เป็นปีที่เราได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้อย่างแข็งขัน ซึ่งเราได้เห็นถึงความสำเร็จ และความคืบหน้าอย่างเป็นสาระสำคัญตาม Roadmap ที่พีทีจีได้วางไว้ ทั้งธุรกิจ Oil และธุรกิจ Non-Oil ส่งผลให้ปริมาณการจําหน่ายน้ำมันของพีทีจีผ่านสถานีบริการทะลุเป้าหมายสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ 5,960 ล้านลิตร เติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 12.1% จากปีก่อนหน้า เทียบกับภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศที่โตเพียงเล็กน้อยที่ 1.2% YoY นอกจากนั้น การขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยจาก 511 สาขาในปีก่อนหน้า เป็น 882 สาขา ณ สิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้น 371 สาขา หรือเทียบได้กับการเปิดสาขาใหม่วันละ 1 สาขา รวมถึงธุรกิจศูนย์บริการดูแลรักษารถยนต์ Autobacs ที่ยอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้ากว่า 50% ผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากขึ้น จาก 45 สาขาในปีก่อนหน้า เป็น 68 สาขา ณ สิ้นปีนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำจุดแข็งของพีทีจีด้านการสร้างการเติบโต ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงศักยภาพในการสร้างการรับรู้ถึงธุรกิจ Non-Oil ของพีทีจีได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายธีรนันท์ ศรีหงส์

ประธานกรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ
ปีแห่งการเติบโต คืบหน้า มุ่งสู่ความทันสมัยผ่านการรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ

นอกเหนือไปจากการเติบโตอย่างเป็นสาระสำคัญของธุรกิจ Oil และความคืบหน้าของการขยายธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย และศูนย์บริการดูแลรักษารถยนต์ Autobacs ดังที่กล่าวมาข้างต้น ปีที่ผ่านมา พีทีจีได้ส่งมอบนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม Max Enterprise Connect ที่เป็นแพลตฟอร์มโซลูชันเพื่อการบริหารต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และฟลีทรถสําหรับผู้ประกอบการ โดยใช้เทคโนโลยีการจัดการบริหารที่ทันสมัยเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (“NIA”) รวมถึงถังบรรจุก๊าซหุงต้มอลูมิเนียม น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม “PT Alumax” ที่ได้รับรางวัล “Product Innovation Awards 2023” จากมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับนิตยสาร Business+ นอกจากนั้นในเชิงธุรกิจใหม่ พีทีจีเล็งเห็นศักยภาพ และโอกาสในอนาคตของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เราจึงได้เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา ผ่านบริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของพีทีจี โดยมุ่งหวัง ฐานสมาชิกกว่า 21 ล้านคนใน Max World ของพีทีจีเป็นจุดได้เปรียบทางการแข่งขัน จากที่กล่าวมา เห็นได้ว่าเรามุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้ทันสมัยในทุกมิติ พร้อมนํานวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทํางาน และการดําเนินธุรกิจ อีกทั้งยังเปิดโอกาส ให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถ และศักยภาพผ่านเวทีต่าง ๆ ปีที่ผ่านมา พีทีจีจึงได้รับรางวัล Top 50 บริษัทในฝันที่คนรุ่นใหม่ อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566 จาก Work Venture สะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติที่แข็งแรงขององค์กรในอนาคต และความเชื่อมั่นที่คนทำงานรุ่นใหม่มีต่อเรา

ปีแห่งการพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน

พีทีจีตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เราจึงผนวกเรื่องการบริหารจัดการ เพื่อความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์ของบริษัท เรามุ่งสร้างความร่วมมือกับเกษตรกรท้องถิ่นตามภูมิภาคต่าง ๆ เช่น มะม่วงคละ 5 สายพันธุ์จากเกษตรกรทางภาคเหนือ ที่นำมาเป็นสินค้าสมนาคุณให้กับลูกค้าที่เข้าใช้บริการในสถานีบริการของเรา ข้าวโพดหวานอินทรีย์ 2 จากกลุ่มเกษตรกรไร่สุวรรณ มะม่วงเบาจากกลุ่มเกษตรกรทางภาคใต้ หรือส้มมะปี๊ดจากกลุ่มเกษตรกรทางภาคตะวันออก ที่เรานำมา ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเมนูกาแฟ และเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ ของร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงเราได้สร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “ค่ายอาสา PT ทำจริงไม่ทิ้งกัน” ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมพีทีชุมชนตาสว่าง ที่ช่วยตัดแว่นสายตาให้ผู้สูงอายุ กิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือกิจกรรมลงพื้นที่ปลูกป่าสร้างปอด นอกจากนั้น เรายังได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอนาคต อาทิเช่น การติดตั้งจุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (Elex by EGAT PT) ที่ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“EGAT”) โครงการโรงไฟฟ้าขยะ 4.5 เมกะวัตต์ ที่ตำบลบ้านพรุ จังหวัดสงขลา โครงการโซลาร์ รูฟท็อปในสถานีบริการ PT รวมไปถึงธุรกิจการจัดการขยะในชุมชมที่ได้เริ่มไปแล้วในปีที่ผ่านมา ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้พีทีจีเราได้รับรางวัลระดับโลก “Best ESG Responsible Executive Team Thailand 2023” ซึ่งเป็นการมอบรางวัลให้กับทีมผู้บริหารที่มี ความรับผิดชอบต่อ ESG ได้อย่างดีเยี่ยมในประเทศไทย จากหน่วยงาน CFI.co (Capital Finance International) ของสหราชอาณาจักร

2567 ปีแห่งการมุ่งมั่นต่อยอดความสำเร็จ

เรายังยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกด้านของช่วงชีวิต ปี 2567 นี้ จึงเป็นปีแห่งการมุ่งมั่นต่อยอดจากความสำเร็จที่ได้เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคม รวมถึงพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนให้แข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไป รับผิดชอบและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และทีมงานพีทีจีทุกคน จะใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มี ดำเนินการตามแผนที่ได้กำหนดไว้ใน Roadmap อย่างแข็งขัน มุ่งมั่น เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย

ผมในนามของคณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความเชื่อมั่น และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น ท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตร คู่ค้า สถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐ ผู้บริหาร ทีมงานพีทีจี และบรรดาผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ผมเชื่อ เป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราทุกคนต่างเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งเมื่อเราทุกคนประสานร่วมมือกันแล้ว ย่อมส่งผลให้ภาพใหญ่ และเศรษฐกิจของประเทศเราแข็งแรง ยั่งยืน รวมถึงคนไทยทุกคนได้มีชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข”